ในช่วงนี้ที่มิจฉาชีพระบาดอย่างหนัก ทั้งการโทรหลอกลวง หรือการส่ง SMS หลอกลวง ที่ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ในการรับโทรศัพท์หรือการรับข้อความต่าง ๆ เราในฐานะที่เป็นผู้ใช้ SMS Marketing ก็ต้องระวังมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เพื่อไม่ให้ข้อความที่เราต้องการส่งไปหาลูกค้ากลายเป็นข้อความสแปม
ข้อความสแปมคืออะไร ทำไมต้องระวัง
ข้อความสแปม (SMS Spam) เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นข้อความที่ก่อให้เกิดความรำคาญใจ หรือเป็นข้อความหลอกลวงที่มีการแอบอ้าง ข้อความเหล่านี้อาจถูกส่งมาแบบซ้ำ ๆ จนทำให้ผู้ที่ได้รับเกิดความรำคาญได้ ซึ่งในตอนนี้กำลังระบาดอย่างหนักในประเทศไทย ทำให้ผู้ที่ต้องการส่งข้อความ SMS Corporate หรือพวกข้อความการตลาด ต้องระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ข้อความที่ถูกส่งไปคล้ายกับข้อความสแปม โดยมีวิธีดังนี้
1. เขียนให้ถูกต้อง
คำผิดที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ แต่ดันไปลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อความที่ส่งมาได้ โดยเฉพาะ SMS Corporate ที่ถึงแม้ว่าผู้ส่งจะเป็นแบรนด์จริง ๆ ก็ตาม แต่การมีจุดที่พิมพ์ผิดในข้อความก็จะกลายเป็นชนวนให้ผู้ที่ได้รับข้อความนั้นเกิดความสงสัยได้ ว่าเป็นแบรนด์จริงหรือเปล่า ทำไมถึงเขียนผิด เพราะอิงจากประสบการณ์ที่เห็นพวกข้อความหลอกลวงที่เป็นสแปมจริง ๆ มักจะชอบเขียนผิด ๆ ถูก ๆ เลยกลายเป็นจุดสังเกตที่ทำให้คนจับพิรุธของพวก Scammer ได้ ถ้าเกิดคุณดันส่งข้อความไปหาลูกค้าและดันมีคำผิดให้ทำใจไว้เลย ว่าลูกค้าอาจไม่สนใจที่จะคลิกลิงก์ในข้อความ ทางที่ดีควรทำการตรวจทานข้อความให้ถูกต้องก่อนทุกครั้ง
2. หลีกเลี่ยงคำที่สื่อความหมายไปในเชิงที่ทำให้เข้าใจผิด
หากคุณมีการขึ้นต้นประโยคด้วยข้อความเหล่านี้ “ยินดีด้วยคุณคือผู้โชคดี…” หรือ “รับเลย….เพียงคลิกลิงก์” โอกาสที่ลูกค้าจะเปิดข้อความเข้ามาดู อาจหมดไป ดีไม่ดีอาจโดนกดลบด้วยซ้ำ เพราะข้อความเหล่านี้เป็นข้อความที่พวก Scammer ชอบใช้ ถึงแม้ว่าเจตนาในการเลือกใช้ข้อความเหล่านั้นของคุณจะเป็นเรื่องจริง แต่ข้อความเหล่านี้ดันไปคล้ายกับข้อความสแปม ดังนั้นก่อนการส่งข้อความทุกครั้ง คุณควรหลีกเลี่ยงประโยคเหล่านี้ที่ชวนให้ผู้รับเข้าใจผิดจะดีที่สุด